วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2561

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดร้อยเอ็ด



ข่าว ๒๓ ม.ค.๖๑
ด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยสภาพความเป็นอยู่ของราษฎรที่ประสบภัยหนาว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จำนวน 1,500 ผืน ไปมอบให้แก่ราษฎรในพื้นที่อำเภอขุนหาญ และอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจแก่ราษฎรที่ประสบภัย

ส่วนที่จังหวัดร้อยเอ็ด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จำนวน 750 ผืน ไปมอบให้กับราษฎรในพื้นที่อำเภอจังหาร รวม 8 ตำบล 10 หมู่บ้าน ที่ประสบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นเนื่องจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ปกคลุมทางตอนบนของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อุณหภูมิลดลงและมีอากาศหนาวเย็น ส่งผลให้ราษฎรในพื้นที่อำเภอจังหารได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยการได้รับผ้าห่มพระราชทานในวันนี้สร้างความปลาบปลื้มใจแก่ราษฎรเป็นอย่างยิ่ง

วันพุธที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2561

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯจัดงาน 'อุ่นไอรัก คลายความหนาว' 8 ก.พ.- 11 มี.ค.61

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์จัดงานฤดูหนาวขึ้นภายใต้ชื่อ “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ.พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 8 ก.พ. – 11 มี.ค.61 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี โดยมีลักษณะงานแบบย้อนยุค

การจัดงานแบ่งเป็น 3 โซน คือ
1) โซนพระลานพระราชวังดุสิต จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมสยามประชารำฦก นำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ร.5 และ ร.9

2) โซนสนามเสือป่า จัดร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้ารับเชิญ เช่น ร้านศิลปาชีพ 904 ร้านภูฟ้า ร้านจิตรลดา ร้านของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ร้านมูลนิธิโครงการหลวง ร้านแม่บ้านเหล่าทัพ ฯลฯ

3) โซนร้านอาหารและร้านค้าในแนวคิดใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชน วิถีไทย โดยจะจัดซุ้มร้านอาหารไทยโบราณที่มีรสชาติอร่อย จำนวนประมาณ 30 ร้าน

ทั้งนี้ โซนที่ 1 จะถูกออกแบบตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสมัย ร.5 และ ร.9 มีการจัดสวน พันธุ์ไม้ และน้ำพุ งานประดิษฐ์ตามศิลปะไทยแบบชาววัง

โซนที่ 2 จะมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านและฉายหนังกลางแปลง โดยเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายสินค้าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก

และโซนที่ 3 จะมีการสาธิตเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และมีร้านสตูดิโอให้ถ่ายภาพย้อนยุคด้วย สำหรับการแต่งกายของพ่อค้าแม่ค้าจะสวมชุดไทยย้อนยุค โดยเชิญชวนประชาชนที่ไปร่วมงานแต่งกายย้อนยุคสมัย ร.5 หรือสวมใส่ผ้าไทย หรือชุดสุภาพตามสมัยนิยม

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/JvPoglbitsk

วันจันทร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2561

เตรียมงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว

20 ม.ค.61-จิตอาสาช่วยกันนำดินมาลงแปรงต้นไม้ เพื่อเตรียมสถานที่จัดงานฤดูหนาวขึ้น ภายใต้ชื่อ"อุ่นไอรัก คลายความหนาว" บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ -11 มีนาคม 2561 เพื่อมอบความสุขให้แก่ประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว และศิลปวัฒนธรรมไทย
76017
76018
76019
โซนที่ 1.โซนพระลานพระราชวังดุสิต จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมสยามประชารำฦก นำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ร.5 และ ร.9 2.โซนสนามเสือป่า จัดร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้ารับเชิญ เช่น ร้านศิลปาชีพ 904 ร้านภูฟ้า ร้านจิตรลดา ร้านของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ร้านมูลนิธิโครงการหลวง ร้านแม่บ้านเหล่าทัพ ฯลฯ
โซนที่ 2. จะมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านและฉายหนังกลางแปลง โดยเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายสินค้าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก
โซนที่ 3. จะมีการสาธิตเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และมีร้านสตูดิโอให้ถ่ายภาพย้อนยุคด้วย สำหรับการแต่งกายของพ่อค้าแม่ค้าจะสวมชุดไทยย้อนยุค โดยเชิญชวนประชาชนที่ไปร่วมงานแต่งกายย้อนยุคสมัย ร.5 หรือสวมใส่ผ้าไทย หรือชุดสุภาพตามสมัยนิยม

วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

ที่ยวลดหย่อนภาษีเมืองรอง 55 จังหวัด

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนคนไทยเที่ยวท่องเที่ยวตลอดปี 2561 โดยเฉพาะในจังหวัดเมืองรอง 55 จังหวัด โดยสามารถนำค่าแพคเกจทัวร์จากการท่องเที่ยวชุมชน , ค่าที่พักแรม ในจังหวัดเมืองรองมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (รวม Vat) และเป็นผู้มีรายได้สุทธิต่อปีอย่างน้อย 150,001 บาท สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 61 โดยอย่าลืมขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ หรือใบเสร็จรับเงินไว้ด้วยนะคะ 

ข้อมูลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย


ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2560 มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง 55 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 31 ธ.ค. 2561

โดยสามารถนำค่าใช้จากการท่องเที่ยวในเมืองรองมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เช่น ค่าอาหาร ค่าที่พัก 

ไม่จำเป็นต้องพักเฉพาะโรงแรมที่จดทะเบียนตามกฎหมายเท่านั้น แต่เป็นรีสอร์ต โฮมสเตย์ ได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นโฮมสเตย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ตามที่กรมการท่องเที่ยวกำหนด

สำหรับ 55 จังหวัดเมืองรองที่ได้รับการลดหย่อนภาษี ประกอบด้วย

ภาคเหนือ 16 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย* พิษณุโลก* ตาก* เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สุโขทัย* ลำพูน อุตรดิตถ์ ลำปาง* แม่ฮ่องสอน* พิจิตร แพร่ น่าน* กำแพงเพชร อุทัยธานี พะเยา

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี* อุบลราชธานี* หนองคาย เลย* มุกดาหาร บุรีรัมย์* ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ สกลนคร* นครพนม* ร้อยเอ็ด* มหาสารคาม บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ยโสธร หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ

ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก 12 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สุพรรณบุรี นครนายก สระแก้ว ตราด* จันทบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม ปราจีนบุรี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี

ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช* พัทลุง ตรัง* สตูล ชุมพร* ระนอง* นราธิวาส* ยะลา ปัตตานี

(หมายเหตุ : เครื่องหมาย * คือจังหวัดที่มีสนามบิน และมีเที่ยวบินให้บริการ)

ส่วน 22 จังหวัดที่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 6 จังหวัด คือ จังหวัดนครปฐม นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และปทุมธานี 

รวมทั้งจังหวัดที่มีผู้เยี่ยมเยือนสูงสุด 15 จังหวัดแรก ได้แก่ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา ระยอง สงขลา เพชรบุรี กระบี่ สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ ขอนแก่น พังงา และ สระบุรี

สำหรับค่าใช้จ่ายที่สามารถลดหย่อนได้ อาทิ 

1. ค่าที่พักในจังหวัดท่องเที่ยวรอง จ่ายให้กับโรงแรม หรือโฮมสเตย์ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยตามที่กรมการท่องเที่ยวกำหนด 

2. ค่าบริการนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง 

3. ค่าบริการนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง ร่วมกับจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวรอง ตามเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

4. ค่าซื้อแพกเกจทัวร์ท่องเที่ยว โดยมีค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าเช่าเรือ ค่าเช่ารถ ค่าอากร ค่าเข้าชมการแสดง ค่าดำน้ำ ฯลฯ ที่รวมอยู่ในแพกเกจทัวร์ 

สำหรับใบเสร็จที่นำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ สามารถใช้ได้ทั้งใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ และใบเสร็จรับเงิน โดยระบุชื่อผู้มีเงินได้ที่ได้จ่ายเงิน จำนวนเงิน วัน เดือน ปีที่จ่ายเงิน

ใบเสร็จรับเงินที่ไม่มีชื่อลูกค้า หรือชื่อลูกค้าไม่ตรงกับชื่อผู้มีเงินได้ที่ได้จ่ายเงิน ไม่ระบุจำนวนเงิน และวันเดือนปีที่จ่ายเงิน จะใช้นำไปเป็นหลักฐานลดหย่อนภาษีไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ประชาชน ในฐานะผู้มีเงินได้ ควรเก็บใบเสร็จรับเงิน หรือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบไว้ เพื่อให้สรรพากรตรวจสอบเมื่อยื่นรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2561 ยื่นแบบในช่วงปี 2562 

ข้อมูล https://mgronline.com/onlinesection/detail/9600000130152


วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

18 มกราคม วันกองทัพไทย วันยุทธหัตถี และวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช


กิจกรรมที่ทำในวันกองทัพไทย
 
             กิจกรรมที่จะกระทำในวันกองทัพไทย คือ

             - พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล หรือที่เรียกว่า "สวนสนามสาบานธง" ซึ่งเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหาร และเป็นการระลึกถึงวีรกรรม 

             - ทำบุญตักบาตร เพื่ออุทิศเป็นส่วนพระราชกุศลและกุศลแก่บรรพบุรุษ

             - ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ

             - จัดแสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับความเป็นมาของความกล้าหาญแห่งวีรกษัตริย์ไทย และวันกองทัพไทย

             ดังนั้น ในฐานะที่เราเป็นคนไทย เกิดบนแผ่นดินไทย เราทุกคนจึงควรตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มั่นทำความดีและดูแลบ้านเมืองให้สงบสุข และที่สำคัญที่สุดคือควรสามัคคี เพื่อที่เราจะได้อยู่กันอย่างสงบ และเพื่อตอบแทนพระคุณของพระองค์ท่าน ที่ได้ทรงเสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องรักษาแผ่นดินไทยของเราให้ได้อยู่มาจน ถึงทุกวันนี้



ความหมายของยุทธหัตถี

             ยุทธหัตถี หมายถึง การต่อสู้ด้วยอาวุธบนหลังช้าง เป็นการรบอย่างกษัตริย์มาแต่โบราณกาล ถือเป็นความเชื่อมาแต่โบราณว่า ยุทธหัตถีหรือการชนช้างนั้น เป็นยอดยุทธวิธีของนักรบ เพราะเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว จะแพ้หรือชนะก็ขึ้นอยู่กับความเก่งกล้า ว่องไว รวมถึงความชำนาญในการขี่ช้าง ดังนั้น เมื่อกษัตริย์พระองค์ใดทำยุทธหัตถีชนะ ก็จะได้รับการยกย่องว่ามีพระเกียรติยศสูงสุด หรือแม้แต่ผู้แพ้ก็ได้รับการยกย่องสรรเสริญว่าเป็นนักรบที่แท้จริง นอกจากนี้ในสมัยอยุธยา มีการทำยุทธหัตถี รวม 3 ครั้ง คือ 

             - ครั้งแรก ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อครั้งพระอินทราชาพระเจ้าลูกยาเธอได้ชนช้างกับข้าศึกที่นครลำปาง และถูกปืนสิ้นพระชนม์ 

             - ครั้งที่สอง ในสมัยพระมหาจักรพรรดิ ซึ่งได้ชนช้างกับพระเจ้าแปรกรุงหงสาวดี การทำยุทธหัตถีในครั้งนั้นส่งผลให้สมเด็จพระศรีสุริโยทัยต้องสิ้นพระชนม์ 

             - ครั้งที่สาม สมเด็จพระนเรศวรมหาราชชนช้างกับพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี จนได้รับชัยชนะ ซึ่งยุทธหัตถีในครั้งนั้นถือได้ว่าเป็นครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ และเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้พระเกียรติยศของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นที่ เลื่องลือไปไกล

บทบาทของกองทัพไทย

             เนื่องในวันที่ 18 มกราคม ถือเป็นวันกองทัพไทยด้วยอีกหนึ่งวัน เราจึงควรทราบถึงบทบาทของกองทัพไทยซึ่งมีหน้าที่ที่สำคัญต่อประเทศมากมาย ล้วนแต่เป็นหน้าที่ที่สำคัญต่อประเทศชาติ ดังนี้

             - การป้องกันประเทศ


             กองทัพไทยได้จัดทำแผนการป้องกันประเทศไว้สำหรับรับสถานการณ์จากภัยคุกคามทุก ด้าน และจัดให้มีการฝึกกองทัพไทยทุกปี รวมถึงมีการจัดเตรียมกำลังรบพร้อมปฏิบัติการตามแผนตั้งแต่ยามปกติและยาม คับขัน รวมทั้งแก้ปัญหาผู้อพยพและผู้ที่หลบหนีเข้าเมือง 

             - การรักษาความมั่นคงภายใน


             กองทัพไทยให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงปฏิบัติการด้านการข่าวเพื่อให้ได้ความร่วมมือจากประชาชนในการให้ข่าว สารกับทางราชการ และปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน

             - การรักษาผลประโยชน์ของชาติ


             กองทัพไทยมีบทบาทสำคัญในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทั้งทางบกและทางทะเล ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า รักษาเส้นทางคมนาคมทางทะเล ช่วยแหลือผู้ประสบภัย และบรรเทาสาธารณภัย 

             - การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ


             กองทัพไทยมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชน รวมถึงการรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไว้ 

             - การพัฒนาประเทศ


             การพัฒนาประเทศของกองทัพไทยนั้น คือการกำหนดแผนการปฏิบัติงานประจำปีของแต่ละหน่วย โดยใช้กำลังพลและงบประมาณของกองทัพในการดำเนินการ รวมถึงสนับสนุนภาครัฐและเอกชนตามโครงการพัฒนาประเทศ และพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ

ที่มา K@Pook https://hilight.kapook.com/view/55367

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ


“อุ่นไอรัก คลายความหนาว”




พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์จัดงานฤดูหนาวขึ้นภายใต้ชื่อ “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ.พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 8 ก.พ. – 11 มี.ค.61 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี โดยมีลักษณะงานแบบย้อนยุค